2 หมื่นบัญชี คิดเป็นมูลหนี้ราว 2, 500 ล้านบาท "มาตรการ TDR เป็นมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ต่อเนื่องเป็นโครงการที่สามหากลูกค้ายังไม่สามารถกลับมาชำระได้ตามปกติภายหลังจากมาตรการแรกที่เราพักหนี้ให้ลูกค้าเป็นเวลา 2 เดือน ซึ่งมีลูกค้าเข้าโครงการรวม 1 ล้านบัญชี และหลังจากหมดมาตรการในเดือนกรกฎาคมพบว่ามีลูกค้ากลับมาชำระหนี้ได้พอสมควร โดยมีลูกค้าที่ไม่ไหวและเข้ามาตรการช่วยเหลือผ่านโครงการรีไฟแนนซ์ต่อเพียง 9. 3 หมื่นบัญชี มูลหนี้ราว 4, 200 ล้านบาท" ดังนั้น แนวโน้มหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ทิศทางคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนหนึ่งมาจากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ผ่านมาตรการต่างๆ จึงเห็นการขยับเพิ่มขึ้นไม่มาก แต่จะไปขึ้นการเพิ่มขึ้นในไตรมาสที่ 1 ของปี 2564 โดยขณะนี้เอ็นพีแอลอยู่ที่ 2. 25% และคาดว่าภายในสิ้นปีจะขยับเพิ่มขึ้นไม่เกิน 2. 5% อย่างไรก็ดี แม้ว่ามีทิศทางเอ็นพีแอลลดลงบ้าง เนื่องจากยังมีประเด็นผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจนอกเหนือจากผลกระทบจากโควิด-19 ที่ส่งผลไปยังรายได้ลูกหนี้ให้ปรับลดลง นางสาวณญาณี กล่าวต่อไปว่า สำหรับแนวโน้มธุรกิจในไตรมาสที่ 4 มองว่าอัตราการเติบโตเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้นจากมาตรการของภาครัฐที่เข้ามาช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย โดยคาดว่ายอดใช้จ่ายจะเติบโตอยู่ที่ 25% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 โดยทั้งปี 2563 จะมีใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล (Spending) อยู่ที่ 2.
เป็นลูกค้าที่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อกับ กรุงศรี ออโต้ ก่อนวันที่ 1 มกราคม 2564 2. ไม่เป็นสินเชื่อที่ค้างชำระเกิน 90 วัน ณ วันที่เข้าร่วมมาตรการ 3. ไม่เป็นสินเชื่อที่อยู่ในขบวนการทางกฏหมาย ณ วันที่เข้าร่วมมาตรการ เอกสารประกอบการพิจารณา 1. สำเนาบัตรประชาชนผู้เช่าซื้อ (พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง) 2. เอกสารยืนยันผลกระทบจาก โควิด19 ที่มีผลต่อรายได้ของผู้เช่าซื้อ 3. สำเนาบัตรประชาชนผู้ค้ำประกัน (พร้อมลงนามรับรองสำเนาถูกต้อง) 4. เอกสารยืนยันผลกระทบจาก โควิด19 ที่มีผลต่อรายได้ของผู้ค้ำประกัน หมายเหตุ: ข้อ 3. และ ข้อ 4.
จากการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ กรุงศรี ออโต้ ได้ประกาศมาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม โดยการปรับโครงสร้างหนี้ ด้วยการลดค่างวดผ่อนชำระสูงสุด 30% และ พักชำระค่างวดสูงสุด 3 เดือน เมื่อวันที่ 20 ม. ค. 64 นางกฤติยา ศรีสนิท ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรี ออโต้ ได้ให้ความช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อยานยนต์ทุกประเภทที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 ตามมาตรการระยะที่หนึ่ง ระยะที่สอง เมื่อสิ้นสุดโครงการพักชำระหนี้ ก็ยังคงให้ความช่วยเหลือต่อเนื่องตามสภาพการณ์และความจำเป็นเป็นรายกรณี หลังจากเห็นแนวโน้มผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงปลายเดือน ธ.
วิธีพักชำระหนี้ กรุงศรี ออโต้ - YouTube
ค. 64 – 18 ส.
หนี้ครัวเรือนดันเอพีแอลปูด กรุงศรีฯเดินหน้าเจาจาประนอมหนี้ลูกหนี้ อังคารที่ 9 ธันวาคม 2557 เวลา 03. 01 น. นายฐากร ปิยะพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด หรือกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) เริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากการใช้จ่ายผู้บริโภคตึงตัว เห็นได้จากภาระหนี้ครัวเรือน ที่ปรับตัวสูงขึ้น ตามภาะวะค่าครองชีพที่เพิ่มขึ้น เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงต้นปีที่ผ่านมา แต่ทั้งนี้ เชื่อว่าปีหน้า หากเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้น การใข้จ่ายของผู้บริโภคจะกลับคืนมา ทั้งด้านการท่องเที่ยวและการซื้อสินค้า โดยขณะนี้เอ็นพีแอลบัตรเครดิตอยู่ที่ 1-1. 2% เพิ่มขึ้นจากเดิม อยู่ที่ 0. 8-0. 9% และสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 3. 6% จากเดิมอยู่ที่ 3. 2% เพิ่มขึ้น 0. 40% แต่ถ้าเทียบกับตลาดทั้งระบบแล้ว ถือว่ายังอยู่ระดับต่ำกว่าตลาด ที่เอ็นพีแอลบัตรเครดิตอยู่ที่ 1. 6% และสินเชื่อบุคคลอยุที่ 4% พร้อมกันนี้ คาดว่าในปีหน้าเอ็นพีแอลอาจเพิ่มขึ้น ตามการขยายตัวเศรษฐกิจที่อยู่ที่ระดับ 4-5% "ที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เจรจาปรับโครงสร้างหนี้ เช่น ลดดอกเบี้ย และใช้เครื่องมือทุกรูปแบบ หารือกับลูกค้าที่มีปัญหาในการชำระหนี้ ซึ่งบางรายที่ชำระหนี้ไม่ไหวก็ตัดหนี้เป็นสูญ โดยกลุ่มที่มีหนี้ตึงตัวสูงคือกลุ่มรายได้น้อยกว่า 30, 000 บาท เพราะมีภาระหนี้สินสูง ส่วนอัตราการผ่อนชำระหนี้เฉลี่ยอยู่ที่ 72-73% และในปัจจุบันยอดเอ็นพีแอลของบริษัทอยู่ที่ 1, 700 ล้านบาท" คุณเห็นด้วยกับข่าวนี้หรือไม่ เห็นด้วย 0% ไม่เห็นด้วย 0%
25 ล้านล้านบาท ทั้งนี้ล่าสุดเดือนพ. 2564 ยังมีลูกค้าอยู่ภายใต้การให้ความช่วยเหลือรวม 1. 89 ล้านบัญชี คิดเป็นวงเงินช่วยเหลือกว่า 2 ล้านล้านบาท
8 แสนล้านบาท หรือ -11% และมียอดสินเชื่อปล่อยใหม่อยู่ที่ 8. 3 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น -15% และมียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 1. 44 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต -3% จากปีก่อน "ขณะที่ภาพรวมไตรมาสที่ 3 ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตอยู่ที่ 1. 96 แสนล้านบาท และมียอดปล่อยสินเชื่อใหม่อยู่ที่ 5. 8 หมื่นล้านบาท และมียอดคงค้างอยู่ที่ 1. 33 แสนล้านบาท ยอมรับว่าตัวเลขยังออกมาติดลบอยู่บ้าง อย่างไรก็ดี หมวดการใช้จ่ายที่เห็นการเติบโตโดดเด่นมาก จะเป็นหมวดประกันสุขภาพที่เห็นการซื้อประกันผ่านบัตรมากขึ้น และไฮเปอร์มาร์เก็ต ส่วนกลุ่มที่มีการล็อกดาวน์และเห็นการเติบโตสูง จะเป็นหมวดการซื้อขายออนไลน์ที่เติบโต 150% แม้ว่าหลังคลายล็อกการเติบโตจะลดลงเหลือเพียง 75% แต่ถือว่ายังโตได้ดีอยู่ ส่วนหมวดที่ดร็อปลงชัดเจน จะเป็นร้านค้าในประเทศที่ช่วงล็อกดาวน์และหมวดใช้จ่ายในต่างประเทศ" ทั้งนี้ สิ่งที่บริษัทต้องปรับตัวในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เพื่อประคองธุรกิจนั้น คือ 1. การช่วยเหลือลูกค้าผ่านมาตรการช่วยเหลือต่อเนื่องจากปีนี้ถึงปี 2564 และ 2. การปล่อยสินเชื่อใหม่จะต้องควบคุมคุณภาพลูกค้าใหม่ โดยจะต้องมีความชัดเจน ซึ่งจากปีนี้ลูกค้ารายใหม่อยู่ที่ 5 แสนราย ปรับลดลงราว -44% ถือว่าค่อนข้างเยอะนับตั้งแต่ทำธุรกิจมา และ 3.